ภาพรวม


ตัวชี้วัด Fractal อ้างอิงจากรูปแบบราคาง่าย ๆ ที่พบได้บ่อยในตลาดการเงิน นอกเหนือจากการเทรด “Fractal” คือรูปทรงเรขาคณิตที่เกิดซ้ำและปรากฏในทุกกรอบเวลา จากแนวคิดนี้จึงได้มีการพัฒนาตัวชี้วัด Fractal ขึ้น


อินดิเคเตอร์นี้ทำหน้าที่แยกจุดที่อาจเป็นจุดกลับตัวบนกราฟราคา แล้วแสดงลูกศรเพื่อบ่งบอกการเกิดรูปแบบดังกล่าว Fractal ขาขึ้นบ่งชี้ว่าราคาอาจปรับตัวสูงขึ้น ส่วน Fractal ขาลงบ่งชี้ว่าราคาอาจปรับตัวลดลง Fractal ขาขึ้นจะแสดงด้วยลูกศรชี้ลง และ Fractal ขาลงจะแสดงด้วยลูกศรชี้ขึ้น



ประเด็นสำคัญ (KEY TAKEAWAYS)

  • Fractal ขาขึ้น เกิดขึ้นเมื่อมีจุดต่ำตรงกลาง และมีแท่งราคาที่ทำ “จุดต่ำสูงกว่า” สองแท่งอยู่ทั้งสองด้าน

  • Fractal ขาลง เกิดขึ้นเมื่อมีจุดสูงตรงกลาง และมีแท่งราคาที่ทำ “จุดสูงต่ำกว่า” สองแท่งอยู่ทั้งสองด้าน

  • ลูกศรชี้ขึ้นใช้สำหรับ Fractal ขาลง ส่วนลูกศรชี้ลงใช้สำหรับ Fractal ขาขึ้น

  • ลูกศรจะถูกวาดไว้เหนือหรือใต้แท่งกลาง (จุดสูงหรือจุดต่ำ) แม้ว่ารูปแบบจะมีทั้งหมด 5 แท่งก็ตาม เทรดเดอร์ไม่สามารถเปิดออเดอร์ในจุดที่ลูกศรปรากฏได้ทันที เพราะลูกศรจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อแท่งถัดไปอีกสองแท่งยืนยันรูปแบบเรียบร้อยแล้ว

  • หากมีการนำสัญญาณ Fractal ไปใช้เปิดออเดอร์ จุดเข้าเทรดจะเป็นราคาเปิดของแท่งที่สามหลังจากลูกศรปรากฏ

รายละเอียด (Description)


อินดิเคเตอร์ Fractal จะสร้างสัญญาณค่อนข้างบ่อย การเกิด Fractal เพียงอย่างเดียวไม่ใช่สัญญาณที่สำคัญเสมอไป เนื่องจากรูปแบบนี้พบได้ทั่วไปมาก


Fractal ชี้ถึง “ความเป็นไปได้” ของการเปลี่ยนทิศทางของราคา เพราะโดยพื้นฐานแล้วรูปแบบนี้เป็นการสร้างลักษณะ “ตัว U” ของราคา Fractal ขาลงเกิดจากราคาที่เคลื่อนตัวขึ้นก่อน แล้วกลับลง ทำให้เกิดรูปทรงตัว U กลับหัว ส่วน Fractal ขาขึ้นเกิดจากราคาที่เคลื่อนลงก่อน แล้วหันกลับขึ้น

เนื่องจาก Fractal เกิดขึ้นบ่อย และหลายครั้งอาจไม่ใช่จุดเข้าเทรดที่น่าเชื่อถือ จึงนิยมใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น ๆ Bill Williams ยังได้พัฒนาอินดิเคเตอร์ Alligator ซึ่งช่วยแยกช่วงที่เป็นเทรนด์ เมื่อนำ Fractal มารวมกับการวิเคราะห์เทรนด์ เทรดเดอร์อาจเลือกเทรดเฉพาะ Fractal ขาขึ้นในช่วงขาขึ้น และเทรดเฉพาะ Fractal ขาลงในช่วงขาลง เป็นต้น


Fractal ยังสามารถใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่น เช่น Pivot Points หรือ Fibonacci Retracement ได้อีกด้วย โดยจะพิจารณาเฉพาะ Fractal ที่มีตำแหน่งสอดคล้องกับอินดิเคเตอร์อื่นและทิศทางราคาหลัก ตัวอย่างเช่น หากหุ้นอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น และราคาย่อตัวลงมาถึงระดับ Fibonacci 50% เทรดเดอร์อาจเปิดออเดอร์ได้หากเกิด Fractal ขาขึ้นในบริเวณดังกล่าว


หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอินดิเคเตอร์นี้และสัญญาณการเทรด คลิกที่นี่


การตั้งค่าในกราฟ




บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?

เยี่ยมเลย!

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ

ขออภัยที่เราช่วยเหลือไม่ได้!

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ

บอกให้เราทราบว่าเราจะปรับปรุงบทความนี้ได้อย่างไร!

เลือกเหตุผลอย่างน้อยหนึ่งข้อ
ต้องมีการตรวจสอบ CAPTCHA

ส่งข้อเสนอแนะแล้ว

เราขอขอบคุณในความพยายามของคุณ และจะพยายามแก้ไขบทความดังกล่าว